การทำเกลียวใน (Tap internal threading)

การทำเกลียวในที่ถูกวิธี (Tap Internal Threading)


การทำเกลียวใน
การทำเกลียวใน


วิธีการต๊าปเกลียว

  1. ต้องเลือกดอกต๊าปให้ตรงตามขนาด และมาตรฐานของเกลียวที่ต้องการ เช่นเกลียวเมตริกโตเท่าใด ? ระยะห่างของเกลียว (Pitch) เท่าใด ? เกลียวมาตรฐาน UNC, UNF ขนาดใด ? เกลียวมาตรฐานอังกฤษวิทเวอร์ธ (BSW.,BSF.) ขนาดเท่าใด? เกลียวแป๊ปขนาน เกลียวแป๊ปเรียวมาตรฐานอเมริกัน (NPS, NPT.) มาตรฐานอังกฤษ BSPF (RC Series), BSPT(G Series) ขนาดเท่าใด ?
  2. เจาะรูก่อนต๊าปเกลียวด้วยขนาดที่ถูกต้อง และเป็นขนาดที่เหมาะสมกับวัสดุแต่ละชนิดด้วย ตารางขนาดที่เจาะรูเพื่อต๊าปเกลียวตามตำราต่าง ๆ เป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการต๊าปเกลียวกับเหล็กเท่านั้น เมื่อนำไปใช้กับวัสดุบางชนิด เช่น อลูมิเนียม มักไม่สำเร็จเพราะเกลียวแรกที่เริ่มต้นมีความแข็งแรงไม่พอที่จะดึงดอกต๊าปลงและขาดออกเสียก่อน จะต้องเจาะรูให้โตขึ้นเพื่อให้เหลือความลึกของเกลียวเพียง 60 % ดอกต๊าปจะเริ่มต้นตัดเกลียว 2-3 เกลียวซึ่งเกลียวที่เริ่มต้น 2-3 เกลียวจะมีความแข็งแรงพอที่จะดึงดอกต๊าปลงได้ สเตนเลส ก็ต้องเจาะรูให้โตเช่นเดียวกับอลูมิเนียม แต่เหตุผลตรงกันข้าม คือ สเตนเลสเป็นโลหะที่มีความแข็งแรง การเจาะรูตามที่กำหนดโดยทั่วไป (ความลึกของเกลียวประมาณ 75 %) จะทำให้ดอกต๊าปหักขณะหมุนถอยหลังเนื่องจากมีความฝืด (Friction) มาก การต๊าปเกลียวขนาดเล็กแต่ลึกก็ควรจะเจาะรูให้โตกว่าปกติเล็กน้อย
  3. การตั้งดอกต๊าปให้ตรงตอนเริ่มต้นมีความสำคัญมาก หากตั้งดอกต๊าปไม่ตรงดอกต๊าปจะเบียดด้านข้างของรูมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความลึกที่ดอกต๊าปหมุนลงไป ดอกต๊าปจะหักแน่นอน 
  4. การหมุนด้ามต๊าปกลับเพื่อหักเศษที่เกิดขึ้นควรทำบ่อย ๆ ประมาณ ¼ - 1/3 รอบต่อครั้ง และระวังเศษตันที่ก้นรู หมั่นเทเศษออกจากรูหากเป็นรูตัน
  5. เมื่อหมุนด้ามต๊าปไปแต่ละครั้งให้สังเกตุว่าด้ามต๊าปมีอาการดีดกลับหรือไม่ หากมีอาการดีดกลับก็แสดงว่าดอกต๊าปไม่สามารถตัดต่อไปได้แล้ว อาจจะเป็นเพราะตั้งดอกต๊าปไม่ตรง เจาะรูเล็กเกินไป ดอกต๊าปหมดคม จะต้องถอยดอกต๊าปขึ้นแล้วแก้สาเหตุเสียก่อน หากฝืนต่อไปดอกต๊าปจะหักคาซึ่งเอาออกยากและเสียเวลามาก
  6. ศึกษาชนิดของดอกต๊าปให้เข้าใจเสียก่อนแล้วจึงเลือกใช้ดอกต๊าปที่ถูกต้อง ดอกต๊าปมือหมุน จะมี 2 ชนิด คือ
    • ชนิดธรรมดา 1 ชุดมี 3 ดอก ทุกดอกโตเท่ากัน ต่างกันตรงเรียวที่ปลาย ดอกที่ 1 เรียวมาก ดอกที่ 2 เรียวน้อย ดอกที่ 3 เรียวเพียง 2-3 เกลียว
    • ชนิด Serial Tap ชุดหนึ่งมี 3 ดอก ดอกแรกผอมจะมีวงที่ก้าน 1 วง ดอกที่ 2 โตขึ้นมีวงที่ก้าน 2 วง ดอกที่ 3 เป็นดอกที่สมบูรณ์ อาจจะมีวงที่ก้าน 3 วง หรือไม่มีวงเลยเพราะเอาดอกที่ 3 ของดอกต๊าปชนิดธรรมดาดอกที่ 3 มาใช้ 
    Serial Tap ใช้ต๊าปเกลียวโลหะที่ต๊าปเกลียวยาก เช่น อลูมิเนียม สเตนเลส เหล็กแข็ง ๆ ฯลฯ
    ดอกต๊าปเครื่อง มีชนิดร่องเกลียวสว่าน (Spiral Flutes) สำหรับดึงเศษขึ้นเหมือนดอกสว่าน ใช้กับรูตัน ชนิดร่องตรงปลายร่องเฉียงทางซ้าย (Spiral Point) สำหรับผลักเศษลงข้างล่าง ใช้กับรูทะลุ ชนิดมีฟันขาด ๆ แหว่ง ๆ (Interrupted Thread Taps) แต่ละแถวไม่ตรงกัน ใช้สำหรับลดแรงในการต๊าปเกลียวกับโลหะที่ต๊าปยาก ดอกต๊าปชนิดไม่มีร่อง (Fluteless Taps) ใช้ขึ้นเกลียวโดยวิธีการรีดขึ้นรูป ใช้กับวัสดุอ่อน วัสดุเหนียว เช่น อลูมิเนียม สเตนเลส เกลียวที่ได้จะเรียบ สวย ได้ขนาด และดอกต๊าปจะทนมาก (ราคาแพงมากด้วย)

  7. ใช้การหล่อลื่นที่เหมาะสม ควรใช้น้ำมันที่ทำมาสำหรับการต๊าปเกลียวโดยตรงเพราะมีสาร EP Additive จะทำให้ดอกต๊าปทน เกลียวที่ได้เรียบสวย